เมื่อ “ปูม้า” กลายเป็นแหล่งเรียนรู้ที่ประสานความร่วมมือระหว่างโรงเรียนและชุมชน

Share on

 200 

หลายครั้งที่มีการพูดการวิเคราะห์ “ทุนชุมชน” ที่สร้างความยั่งยืนทางการเรียนรู้และเศรษฐกิจ ซึ่งทุนชุมชนของโรงเรียนบ้านแหลมไทร อ.สิเกา จ.ตรัง ที่ค้นพบนั้นเป็นแหล่งเรียนรู้ที่มีมูลค่ามหาศาลของชุมชน ที่เริ่มต้นจากโปรเจกต์การเรียนรู้เล็ก ๆ เรื่องปูม้าในห้องเรียนของโรงเรียนบ้านแหลมไทร กลายเป็นแหล่งเรียนรู้ที่เชื่อมโยงระหว่างชุมชนและห้องเรียน การเรียนรู้ที่สร้างความยั่งยืนให้กับ “ปูม้า” สัตว์น้ำเศรษฐกิจที่เป็นแหล่งรายได้สำคัญของคนในชุมชนบ้านแหลมไทร และบ้านทุ่งทอง เป็นองค์ความรู้ที่ประสานความร่วมมือของชุมชน 2 หมู่บ้านไว้ด้วยกัน

ลักษณะเรือประมงท้องถิ่น

“ประสบการณ์โลก” นั้นดูเป็นคำที่กว้างใหญ่ 
เมื่อนำมาปรับใช้ในโรงเรียนนั้นหมายถึงสภาพแวดล้อม
ที่นักเรียนพบเจอในบริบทชุมชน ปัญหาที่พบได้จริงในชุมชน 

ห้องเรียนการเรียนรู้บนฐานชุมชนด้วยกระบวนการ (Active Learning) โดยครูหนิง ภณิดา ชูช่วยสุวรรณ ครูผู้สอนในสาระวิชาสังคม ครูนักจัดการเรียนรู้แบบ Active Learning โดยใช้รูปแบบการเรียนการสอนด้วย ‘หลักสูตรโครงงานนวัตกรรมจากประสบการณ์โลก (Phenomenal Based Learning: IP2)’ ซึ่งเป็นหนึ่งในหลักสูตรของโครงการพัฒนานักจัดการเรียนรู้ในสตวรรษที่ 21 สู่การขยายผลพื้นที่ต้นแบบ โดยสำนักพัฒนาคุณภาพครูและสถานศึกษา กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) ที่ครูหนิง ภณิดา ได้มีโอกาสไปเรียนรู้ที่ สพป. ตรัง เขต 1 การไปเรียนรู้ครั้งนั้นมีจุดมุ่งหมายที่จะนำความรู้ที่ได้มา ประยุกต์ และต่อยอด เพื่อใช้ในการออกแบบการเรียนรู้ให้กับนักเรียน จนเกิดเป็น ห้องเรียนพิทักษ์พันธุ์ปูม้า 

คณะครูและนักเรียนแนะนำวิธีการรับประทานสด
และการเแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ประเภทต่าง ๆ 

คำจำกัดความคำว่า “ประสบการณ์โลก” สำหรับการสอนของครูหนิง ภณิดา นั้นอาจจะดูเป็นคำที่กว้างใหญ่ แต่เมื่อนำมาปรับใช้ในโรงเรียนหมายถึงสภาพแวดล้อมที่นักเรียนพบเจอในบริบทชุมชน ปัญหาที่พบได้จริงในชุมชน นำปัญหาเหล่านี้เปลี่ยนเป็นหนึ่งหน่วยการเรียนรู้ด้านสิ่งแวดล้อมกายภาพของจังหวัด กระตุ้นให้เด็ก ๆ มาร่วมสำรวจทรัพยากรสำคัญร่วมวิเคราะห์เพื่อแก้ปัญหา โดยใช้นวัตกรรมแก้ปัญหา “ปูม้า” สัตว์น้ำเศรษฐกิจที่เป็นแห่งรายได้สำคัญของชุมชน

แล้วทำไมถึงสำคัญ ? ประเด็นการเรียนรู้ที่เกี่ยวเนื่องกับสิ่งแวดล้อมเกี่ยวข้องกับชีวิตของคนในชุมชน ปัญหาที่เกิดขึ้นนั้นส่งผลกระทบกับคนในชุมชน จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องเรียนรู้เพื่อนำมาสู่การแก้ไขปัญหา วิธีการออกแบบการเรียนการสอนตามนั้นไปตามเนื้อหาวิชาการ พร้อมนำปัญหาในชุมชนที่เจอมาจับกับตัวชี้วัดของหลักสูตรแกนกลาง แล้วนำมาบูรณาการเข้าการเรียนรู้ประสบการณ์โลก ซึ่งได้ประโยชน์การเรียนรู้ที่สร้างประสบการณ์ให้นักเรียนมากกว่าเรื่องไกลตัวและเนื้อหาการเรียนรู้ก็เป็นส่วนหนึ่งของ วPA ด้วย 

“การเรียนการสอนโดยใช้ชุมชนเป็นฐาน ความรู้ของครูผู้สอนเพียงลำพังนั้นไม่สามารถตอบโจทย์ผู้เรียนได้ ต้องอาศัย ความร่วมมือจากคนในชุมชนเข้ามาเติมเต็มความรู้กับนักเรียนให้ได้มากที่สุด นอกจากนั้นยังเกิดการบูรณาการองค์ความรู้กับครูวิชาอื่นที่มีความชำนาญเฉพาะทาง เช่น วิทยาศาสตร์ การงานอาชีพ ภาษาไทย คณิตศาสตร์  ภาษาอังกฤษ ทำให้เกิดการประสานความร่วมมือเพื่อเป้าหมายการเรียนการสอนไปด้วยกัน” 

ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 3 บ้านแหลมไทร และหมู่ 7 บ้านทุ่งทอง
ให้ความรู้เรื่องสัตว์เศรษฐกิจของชุมชน

ปัจจัยที่สำคัญในการทำให้ ห้องเรียนธนาคารปูม้า สำเร็จเกิดขึ้นจากปัจจัยที่สำคัญ ประการแรก คือ “นักเรียน มีความกระตือรือร้นที่จะเรียนรู้อยู่ในตัวทุกคน สิ่งนี้กระตุ้นให้นักเรียนเป็นนักคิดค้น ค้นหาคำตอบ ค้นหาวิธีการ เพื่อแก้ปัญหา ครูไม่มีการปิดกั้นกระบวนการคิด ให้นักเรียนฝึกคิดวิเคราะห์ ทำงานร่วมกัน กระบวนการนี้เกิดทักษะในศตวรรษที่ 21 ประการที่สอง ห้องเรียนธนาคารปูม้านี้ จะสำเร็จไม่ได้เลย ศาสตร์ความรู้เฉพาะทางนี้หากขาดความร่วมมือจากชุมชนที่เป็นผู้มอบศาสตร์ความรู้วิชาท้องทะเลเพื่อการเรียนรู้วิถีชีวิตปู ประการที่สาม บุคลากรในโรงเรียนที่ร่วมมือกันบูรณาการสาระวิชาการเพื่อเติมเต็ม ซึ่งไม่สามารถขาดความร่วมมือของใครคนใดคนหนึ่งได้ ต้องประสานการเรียนรู้ไปด้วยกัน”   

ธนาคารปูม้าบ้านทุ่งทอง ตั้งอยู่ไม่ไกลจาก รร. บ้านแหลมไทร

เมื่อถามถึงเป้าหมายการเรียนรู้ของครูหนิงที่ตั้งไว้เป็นอย่างไร ครูหนิง นั้นต้องการให้นักเรียนมีจิตสำนึกรักและหวงแหนทรัพยากรในชุมชน นักเรียนสามารถเรียนรู้ว่าอะไรสำคัญ จำเป็นสำหรับชีวิตและชุมชน โดยที่สามารถเชิญชวนคนในชุมชนให้เข้ามามีส่วนร่วมในสิ่งที่นักเรียนคิดและทำได้ ซึ่งวันนี้ถือว่าประสบความสำเร็จแล้ว จากจุดเริ่มต้นจากการเรียนรู้ทุนชุมชน “หลักสูตรโครงงานนวัตกรรมจากประสบการณ์โลก (Phenomenal Based Learning: IP2)” ของโรงเรียนบ้านแหลมไทร ปัจจุบันรูปแบบการจัดการเรียนรู้ได้ขยายผลไปสู่โรงเรียน สปพ. ตรัง เขต 2 อีก 28 โรงเรียน นั่นหมายความว่าจะเกิดการเรียนรู้ที่ใช้ “ทรัพยากรของชุมชน” เป็นต้นทุนในการเรียนรู้อีก 28 ทุนชุมชน 

รับชมวิดีโอ ‘พิทักษ์พันธุ์ปูม้า’ โจทย์การเรียนรู้โรงเรียนบ้านแหลมไทร ปั้นนวัตกรน้อยนักแก้ปัญหา ได้ที่ 

กระบวนการจัดการเรียนการสอน

6 แผนการเรียนรู้โดยใช้ชุมชนเป็นฐาน  

เริ่มต้นด้วยการลดบทบาทของครูเอง ด้วยการพูดการอธิบาย ให้น้อยลงเปลี่ยนตนเองเป็นครูโค้ช เพื่อกระตุ้นให้นักเรียนเกิดการเรียนรู้ เพื่อเปิดโอกาสให้นักเรียนพูด ได้นำเสนอ ได้แสดงความคิดเห็น 

ให้นักเรียนคิดแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นในชุมชนและสร้างนวัตกรรมได้ด้วยกระบวนการ IP2  Innovation = ให้นักเรียนคิดค้นนวัตกรรม  Project-based Learning = การเรียนรู้ผ่านโครงงานเป็นฐาน และ Phenomenon-based learning = การเรียนรู้โดยใช้ปรากฏการณ์เป็นฐานในการเรียนรู้  การออกแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้ 

Phenomenon-based learning + Community Innovation Project : CIP โครงงานนวัตกรรมเพื่อชุมชน (นวัตกรรมของมูลนิธิเพื่อทักษะแห่งอนาคต) โดย CIP มีกระบวนการทั้งหมด 6 ขั้นตอน และได้นำมาออกแบบการจัดการเรียนรู้ที่เป็นองค์ความรู้ของโรงเรียนบ้านแหลมไทรที่ชื่อว่า หน่วยการเรียนรู้ด้านสิ่งแวดล้อมกายภาพในจังหวัด โดยประกอบด้วย 6 แผน 

การจัดกระบวนการเรียนรู้ในห้องเรียน

แผนที่ 1 แหลมไทรอะไรดี ? 

ประเมินทักษะการคิดของผู้เรียน

นักเรียนดูภาพถ่ายสถานที่ต่าง ๆ ของพื้นที่บ้านแหลมไทร และบ้านทุ่งทอง ตำบลเขาไม้แก้ว อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง ซึ่งเป็นพื้นที่ในท้องถิ่นของนักเรียน และร่วมกันอภิปรายสิ่งแวดล้อมทางกายภาพชุมชน ในหัวข้อ “แหลมไทร อะไรดี” เพื่อหาเอกลักษณ์ของท้องถิ่นบ้านแหลมไทร โดยมีประเด็น ดังนี้  ลักษณะภูมิประเทศ  ลักษณะภูมิอากาศ  ป่าไม้หรือพืชพรรณที่พบ และสัตว์ที่พบ

แผนที่ 2 ตามมาจะพาไปล่องทะเล

การคิดประเด็นการเรียนรู้จากแรงบันดาลใจ 

ครูหนิง พานักเรียนไปสำรวจบริบทชุมชน บ้านแหลมไทร และ บ้านทุ่งทอง ที่มีสภาพแวดล้อมทางกายภาพเหมือนกันคืออยู่ในแหลมติดทะเลฝั่งอันดามัน ประกอบอาชีพประมงท้องถิ่น เพื่อให้เข้าใจลักษณะของโลกด้วยแผนที่ชุมชนดูภูมิศาสตร์เพื่อเชื่อมเข้าสู่วิชาสังคมศาสตร์ ถึงแม้นักเรียนจะอยู่ในชุมชนที่เป็นแหล่งประมงพื้นบ้าน แต่เด็กบางคนไม่เคยเดินสำรวจชายหาดในชุมชนของตน ครูหนิงจึงพาลงสำรวจพื้นที่ท่าเทียบเรือแหลมไทร ดูธนาคารสาหร่ายพวงองุ่นของผู้ใหญ่บ้าน เพื่อสำรวจปัญหาที่เกิดขึ้นจริงในชุมชน 

เข้าสู่ขั้นคบคิด 

  • อะไรคือของดีของแหลมไทร – ปูม้า
  • ปัญหาที่นักเรียนพบระหว่างสำรวจพื้นที่ – ปูม้าลดจำนวนลง

แผนที่ 3 หนูน้อยนักอนุรักษ์ พิทักษ์พันธุ์ปูม้า 

ร่วมมือกันเขียนแผน

นักเรียนร่วมกันวิเคราะห์ว่าอะไรที่เป็นปัญหาของชุมชน เพื่อนำมาวางแผนแก้ปัญหาตามวิธีการของตนเอง โดยขั้นตอนนี้ใช้เครื่องมือ FILA Map เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อนำไปสู่การออกแบบการแก้ปัญหา

F = Fact ข้อเท็จจริง เป็นที่มาของปัญหาซึ่งทุกคนพบว่า จำนวนปูม้าลดลง

I = Innovation นวัตกรรม ที่จะทำอย่างไรให้ปูม้าเพิ่มจำนวน 

L = Learning ความรู้และทักษะที่ต้องใช้สร้างนวัตกรรม 

A = Action Plan การวางแผนกระบวนการทำงาน

แผนที่ 4 คิดไม่ OUT เราทำได้ 

การจัดการเรียนรู้

เป็นการจัดการเรียนรู้ด้วยการลงมือทำ บูรณาการรายวิชาสังคมศึกษา วิทยาศาสตร์ และการงานอาชีพ เพื่อนำไปใช้ในการประดิษฐ์นวัตกรรมพลังงานโซลาเซลล์ ที่จะใช้แก้ปัญหาต้นทุนพลังงานไฟฟ้า โดยอาศัยความร่วมมือของครู 2 ท่าน 1) ครูฐิตินันท์ อ่อนรู้ที่ กลุ่มสาระวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี 2) ครูกนกวรรณ นาศร กลุ่มสาระวิชาสังคมศึกษา มาช่วยเติมเต็ม 

ผลที่ได้นักเรียนเกิดกระบวนการทำงาน การจัดการ และแบ่งหน้าที่ 

  1. ชุดอนุบาลพันธุ์ปูม้าพลังงานแสงอาทิตย์
  2. ดูแลธนาคารปูม้าของชุมชน 
  3. นักอนุบาลปูม้า โดยภาชนะจากวัสดุในชุมชน เช่นกระป๋อง 
  4. ออกแบบสื่อประชาสัมพันธ์การอนุรักษ์ปูเพื่อเผยแพร่ให้ชุมชน

แผนที่ 5 ถอดบทเรียน เปลี่ยนชีวิต

ผู้เรียนประเมินตนเอง 

โดยใช้วิธีการถอดบทเรียนตามหลัก SDGs การพัฒนาที่ยั่งยืน

หลังจากที่กระบวนการทำงานแล้ว จึงให้นักเรียนประเมินตนเองว่าสิ่งที่ได้เรียนรู้และลงปฏิบัติใน หลักสูตรโครงงานนวัตกรรมจากประสบการณ์โลก (Phenomenal Based Learning: IP2) มีประโยชน์ต่อโลกและสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนจาก 17 เป้าหมาย ข้อใดบ้าง

เป้าหมายที่ 1 ยุติความยากจนทุกรูปแบบในทุกที่ – เมื่อปริมาณปูม้าเพิ่มขึ้นทำให้ชาวบ้านจับปูม้าได้มากขึ้น

เป้าหมายที่ 2 ยุติความหิวโหย บรรลุความมั่นคงทางอาหาร และยกระดับโภชนาการ และส่งเสริมเกษตรกรรมที่ยั่งยืน  – ปูม้าเพิ่มขึ้นแหล่งอาหารมากขึ้น

เป้าหมายที่ 7 พลังงานสะอาดที่ทุกคนเข้าถึง – ใช้พลังงานแสงอาทิตย์ที่เป็นพลังงานสะอาด 

เป้าหมายที่ 14 อนุรักษ์และใช้ประโยชน์จากมหาสมุทร ทะเลและทรัพยากรทางทะเลอย่างยั่งยืนเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน – ลดการบริโภคปูม้าไข่ นำปูม้าไข่มาอนุบาลเพื่อเพิ่มปริมาณปูกลับคืนสู่ท้องทะเล 

แผนที่ 6 สู่ชุมชน อุดมสุข 

เน้น ย้ำ ซ้ำ ทวน ชวนคิดต่อยอด

นำองค์ความรู้ที่ได้จากการเรียนรู้ที่เกิดขึ้นนำเผยแพร่กับคนในชุมชน เพื่อสร้างความตระหนักรู้ ให้ทุกคนมองเห็นปัญหาร่วมกัน เพื่อกระตุ้นให้คนในชุมชนเกิดการหวงแหน พร้อมใจร่วมมือกันแก้ปัญหาเพื่อรักษาทรัพยากรทางเศรษฐกิจที่มีมูลค่าของคนในชุมชนอย่างยั่งยืน

นักเรียนแนะนำขั้นตอนการอนุรักษ์ไข่ปูม้า

Writer

0 0 votes
Article Rating
Subscribe
Notify of
guest
0 Comments
Inline Feedbacks
View all comments

Most Popular

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า