สำหรับงานการประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อขับเคลื่อนขบวนการโรงเรียนพัฒนาตนเอง (TSQM) เป็นการเปิดระดมไอเดียของโรงเรียนภาคีเครือข่ายเพื่อยกระดับการทำงานโครงการ โดยกิจกรรมครั้งนี้ได้นำกระบวนการด้านการออกแบบที่เรียกว่า Design Thinking มาใช้เป็นเครื่องมือระดมไอเดียเพื่อออกแบบแผนงานการขับเคลื่อนการทำงานของขบวนการโรงเรียนพัฒนาตนเอง (TSQM) ให้เป็นไปตามเป้าหมายเพื่อตอบโจทย์การทำงานในพื้นที่การศึกษาอย่างยั่งยืน
เกริ่นนำ : ทำความรู้จักกระบวนการ Design Thinking
Design Thinking ถูกกล่าวถึงครั้งแรกในหนังสือ Creative Engineering เมื่อประมาณปี 1959 เป็นศาสตร์ที่พัฒนาขึ้นมาพร้อม ๆ กับการออกแบบอุตสาหกรรม (Industrial Design) โดยศาสตราจารย์ด้านวิศวกรรมเครื่องกลชื่อว่า John Edward Arnold
Design Thinking นั้นออกแบบมาใช้เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ผลิตเชิงอุตสาหกรรมในยุคปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 2 ครั้ง ที่เริ่มนำระบบอุปกรณ์ไฟฟ้า เหล็ก และพลาสติก เข้ามาในเป็นส่วนผลิตที่ทำให้สามารถผลิตสินค้าเชิงอุตสาหกรรมจำนวนมากได้
Design Thinking การระดมสมอง + สร้างไอเดียใหม่
สำหรับการเก็บข้อมูลสำหรับกระบวนการ Design Thinking นั้น คือเก็บข้อมูลเชิงคุณภาพ ไม่ใช่เชิงปริมาณ เพื่อให้เข้าใจเหตุผลของพฤติกรรมและความต้องการได้อย่างแท้จริง เป็นการลงสำรวจโดยใช้วิธีการเข้าไปทำความเข้าใจด้วยการตั้งคำถาม พูดคุย สอบถาม เฝ้าสังเกต พฤติกรรม หรือประเด็นต่าง ๆ ที่เป็นประโยชน์
(กระบวนการ Design Thinking)
ที่มา : https://www.maqe.com/insight/the-design-thinking-process-how-does-it-work/
โดยกระบวนการระดมไอเดียผ่านกระบวนการ Design Thinking ในงานมหกรรมยกระดับ TSQM ครั้งนี้ มีขั้นตอนหลักในช่วงต่าง ๆ ในการเสนอไอเดีย ความเป็นไปได้ และความหลากหลายดังนี้:
1. Empathize เข้าใจปัญหาและผู้ใช้งาน : กิจกรรมฐานใจ Empathize ความสุข ประสบการณ์/คุณค่าของงานซึ่งกันและกัน การเริ่มต้นสำคัญกระบวนการ Design Thinking ด้วยการเข้าใจปัญหาและความต้องการของผู้ใช้งาน โดยการศึกษาและการสำรวจความต้องการของกลุ่มคนทำงานในพื้นที่การศึกษาเพื่อรับรู้ถึงความต้องการ ปัญหา และอุปสรรคที่พบ ใส่ความคิดสร้างสรรค์ของแต่ละคนได้อย่างเต็มที่และไม่ถูกจำกัดด้วยคำว่า ‘เป็นไปไม่ได้’ และ ‘ไม่น่าจะทำได้’
2. Define นิยามปัญหา : กิจกรรมขั้น 2 เพื่อให้ได้ภาพอนาคตที่อยากเห็นนั้น ให้มอง ณ ปัจจุบันติดขัดเรื่องอะไร เกิดการนิยามปัญหาเป็นขั้นตอนที่สำคัญในกระบวนการนี้ เพื่อให้ทุกคนเข้าใจปัญหาที่ต้องแก้และกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการให้แนวทางการจัดการศึกษาโดยมีเป้าหมายที่ผู้เรียนเป็นสำคัญ
3. Ideate ค้นหาแนวทางแก้ไข : แต่ละกลุ่มพูดคุยระดมสมอง สิ่งสำคัญที่สุดเวลาที่ทำขั้นตอน Ideate ส่วนระดมสมอง คือ ความหลากหลายของความคิด ตัวแทนจาก 16 จังหวัดช่วยกันเทกองไอเดียในการขับเคลื่อนจุดคานงัด (แก้ Pain Points) เพื่อการพัฒนาเด็ก เยาวชน และโรงเรียนในพื้นที่
หลังจากที่เข้าใจปัญหาที่เกิดขึ้นแล้ว จะนำเสนอแนวทางแก้ไขโดยสร้างความคิดสร้างสรรค์จากทุกสมาชิกในเครือข่าย ในขั้นตอนนี้ส่วนใหญ่จะใช้เครื่องมือต่าง ๆ เช่น Brainstorming เพื่อค้นหาแนวทางแก้ไขที่หลากหลายและนำเสนอไอเดียใหม่ ๆ กระบวนการส่วนนี้จะเห็นความต่างของแต่ละจังหวัด ความต้องการการที่อยากแก้ไขปัญหา ซึ่งอาจจะเชื่อมไปสู่ระดับภูมิภาคที่เป็นจุดร่วม โดยในส่วนนี้จะเกิดกระบวนการ Mapping เชื่อมโยงจุดร่วมที่ทุกคนเห็นตรงกันที่จะพร้อมขับเคลื่อน M-Movement ไปพร้อมกัน
ประมวล Ideation ของเขตพื้นที่การศึกษาที่เข้าร่วม 16 จังหวัด
จังหวัดขอนแก่น | จังหวัดเชียงราย |
จังหวัดเชียงใหม่ | จังหวัดนครพนม |
จังหวัดนครราชสีมา | จังหวัดนราธิวาส |
จังหวัดพิษณุโลก | จังหวัดเพชรบูรณ์ |
จังหวัดภูเก็ต | จังหวัดราชบุรี |
จังหวัดลําปาง | จังหวัดศรีสะเกษ |
จังหวัดสงขลา | จังหวัดสระแก้ว |
จังหวัดสุราษฎร์ธานี | จังหวัดสุรินทร์ |
ดาวน์โหลดไฟล์ Visual Note ทั้ง 16 จังหวัดได้ที่
4. Prototype สร้างแบบจำลอง : แต่ละกลุ่มคัดเลือกไอเดียมาสร้างต้นแบบโครงการพัฒนาที่ตอบโจทย์และเป็นไปได้มากที่สุด โดยการวิเคราะห์มิติต้นทุน ทรัพยากร เครื่องมือ บุคลากรในพื้นที่ที่มองเห็นว่าต้องการจะ Move อะไรก่อนในปีที่ 1- 2- 3 หลังจากเลือกแนวทางแก้ไขที่เหมาะสมแล้ว ก็จะเข้าสู่กระบวนการลำดับถัดไปที่เรียกว่าการทำ Prototype ซึ่งเป็นรูปแบบตัวอย่างของการออกแบบนโยบายการทำงาน เครื่องมือ ความร่วมมือเครือข่ายเพื่อทดสอบและพัฒนาไอเดียต่อไป
‘Test’ กระบวนการแห่งความท้าทายของ Design Thinking
5. Test ทดสอบและปรับปรุง : ขั้นตอนนี้ยังไม่ได้เกิดขึ้นในงานครั้งนี้ แต่เป็นการบ้านให้แต่ละจังหวัดนำไอเดียที่เกิดขึ้นในกระบวนการ Prototype ในเวทีนี้ไปลองเสนอผู้เกี่ยวข้อง (Stakeholders) นำไปใช้ในพื้นที่ ผ่านกระบวนการ Professional Learning Community (PLC) และ Developmental Evaluation (DE) การสร้างความเข้มแข็งของโค้ช และเก็บ feedback มาปรับและพัฒนาโครงการให้ดีขึ้นไปอีกขั้น
สุดท้ายการทำงานของ TSQP สู่ TSQM ในครั้งนี้หวังสร้างความเข้าใจต่อสถานการณ์การพัฒนาเด็กในพื้นที่และภาพของการขับเคลื่อนการพัฒนาที่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องนั้นอยากเห็นในอนาคตร่วมกัน ผ่านการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ค้นหาและวิเคราะห์จุดสำคัญที่จะยกระดับการพัฒนาในพื้นที่ ด้วยความหวังว่าการระดมไอเดียและร่างต้นแบบการขับเคลื่อนการพัฒนาร่วมกันที่สามารถทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นได้จริง
อ่านเนื้อหาที่เกี่ยวข้อง
Infographic รวมเป้าหมายทั้ง 16 จังหวัดเครือข่าย
จากเวทีการประชุมเชิงปฏิบัติการขับเคลื่อนขบวนการโรงเรียนพัฒนาตนเอง (TSQM)
https://web.facebook.com/iamkru.eef/posts/596988102621674
Writer
- Admin I AM KRU.