การพัฒนาทักษะสามเณรนักเรียนให้เท่าทันความเปลี่ยนแปลงของโลก

Share on

Loading

โครงการพัฒนาสมรรถนะของสามเณรนักเรียนในโรงเรียนพระปริยัติธรรมเป็นแนวทางสำคัญที่มุ่งเน้นการส่งเสริมศักยภาพของผู้เรียนให้สอดคล้องกับความต้องการของสังคมและยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลงไป โดยเน้นการพัฒนาในด้านการสื่อสาร การคิดขั้นสูง การแก้ปัญหา การดำรงชีวิตในสมณสารูป และการใช้เทคโนโลยี โครงการนี้ได้รับความร่วมมือจากครู ผู้บริหาร ศึกษานิเทศก์ และภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อร่วมกันออกแบบกระบวนการเรียนรู้ที่เหมาะสมกับบริบทของสามเณรนักเรียน พร้อมทั้งเปิดโอกาสให้ได้แสดงศักยภาพและพัฒนาทักษะที่จำเป็นในศตวรรษที่ 21 เป็นการสะท้อนผลลัพธ์ของการพัฒนาโมดูลการเรียนรู้ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการปรับปรุงและขยายผลให้เกิดประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ทั้งในระดับโรงเรียนพระปริยัติธรรมและสถาบันการศึกษาทางพระพุทธศาสนาในอนาคต หวังเป็นอย่างยิ่งว่าข้อมูลและข้อค้นพบจากโครงการนี้จะเป็นแนวทางสำคัญสำหรับการพัฒนาเยาวชนในสายธรรมะให้สามารถเติบโตเป็นผู้มีปัญญาและเป็นกำลังสำคัญในการสืบทอดพระพุทธศาสนาอย่างยั่งยืน

ที่มา-ที่ไปในการเข้าร่วมโครงการ

ได้รับการทาบทามจากหัวหน้าหัวหน้าโครงการ ด้วยความชำนาญเรื่องหลักสูตรและการสอน จึงได้เข้าร่วมการพัฒนาโมดูล ที่ 3 พัฒนาสมรรถนะผู้เรียน ได้ไปเก็บข้อมูลที่ปรากฏสมรรถนะตามเป้าหมายการพัฒนาโรงเรียนพระปริยัติธรรม โดยปกติโมดูล นี้ถือเป็นผลลัพธ์ (Outcome) ที่ได้จากการร่วมพัฒนาโมดูล ที่ 1 การพัฒนาภาวะผู้นํา โมดูล ที่ 2 การออกแบบการจัดการ เรียนรู้เชิงรุกการเปลี่ยนแปลง โมดูล ที่ 4 การพัฒนางานวิจัยและนวัตกรรมการเรียนรู้ โมดูล ซึ่งสิ่งที่ได้ดำเนินงานมาจะสะท้อนผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นผู้เรียนในโมดูลที่ 3 การพัฒนาทักษะและสมรรถนะของนักเรียน โดยผ่านการ กำกับติดตามผลโดย โมดูล ที่ 5 การนิเทศภายในและชุมชนการเรียนรู้วิชาชีพ

ข้อมูล (Data) เป็นปัจจัยสำคัญเพื่อพัฒนาคุณภาพสามเณรนักเรียนอย่างไร 

จากที่อาจารย์ได้ลงไปสำรวจข้อมูลจากการถอดบทเรียนเห็นโอกาสที่จะสามารถพัฒนาให้ลูก ๆ สามเณร เกิดสมรรถนะที่เป็นไปตามหลักสูตรของโรงเรียนพระปริยัติธรรมและหลักสูตรแกนกลางได้ โดยเฉพาะสมรรถนะการใช้เทคโนโลยีที่มีความจำเป็นต่อการเรียนรู้ในปัจจุบัน แต่ด้วยเนื่องจากข้อจำกัดของสถานะครอบครัวสามเณร ข้อจำกัดของโรงเรียนที่อุปกรณ์ด้านเทคโนโลยีที่ไม่เพียงพอ และข้อจำกัดด้านสมณสารูป สิ่งนี้จึงได้เป็นส่วนหนึ่งของฐานการออกแบบการพัฒนาโมดูล ที่ 5 การพัฒนาทักษะและสมรรถนะของนักเรียน ทักษะการแก้ปัญหา ทักษะการดำรงชีวิตที่อยู่ในโรงเรียนประปริยัติธรรมที่มีความแตกต่างจากบริบทโรงเรียนสามัญ  เป็นการเรียนรู้ที่จะส่งเสริมพัฒนาสามเณรนักเรียนให้มีทักษะและสมรรถนะในศตวรรษที่ 21 โดยสอดคล้องกับบริบทโรงเรียนพระปริยัติธรรม 

มุมมองต่อนักเรียนทั่วไปกับสามเณรนักเรียนมีความแตกต่างอย่างไรบ้างในมุมมองของเรา

โรงเรียนพระปริยัติธรรมนั้นมีนโยบายส่งเสริมการเรียนรู้ของสามเณรนักเรียนเหมือนโรงเรียนปกติ แต่ความแตกต่างจะเป็นเรื่องข้อจำกัดในเรื่องของสมณสารูปที่ไม่เอื้อให้ปฏิบัติในบางกิจกรรม เช่น การออกกำลังกาย กิจกรรมบันเทิง หรือบางกิจกรรมที่เน้นการเคลื่อนไหวมากๆ เท่านั้น แต่ในด้านอื่น ๆ สามเณรนักเรียนก็ไม่ได้แตกต่างจากเด็กทั่วไป ทางโมดูลนี้จึงออกแบบการเรียนรู้ที่อยู่บนฐานของข้อจำกัดที่มี 

จากการทำงานทำให้ค้นพบว่า สามเณรนักเรียนมีความสามารถและทักษะที่น่าสนใจซ่อนอยู่ในตัว เพียงแค่รอพื้นที่ที่เปิดโอกาสให้แสดงออกตามความสามารถเท่านั้น

วิธีการทำงานร่วมกับครู ผู้บริหาร  ศึกษานิเทศก์ และฝ่ายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง 

วิธีการทำงานของโมดูล ที่ 5 การพัฒนาทักษะและสมรรถนะของนักเรียน คือการไปเฟ้นหาสมรรถนะและสกัดทักษะของลูก ๆ สามเณรที่แฝงอยู่ในตัวให้แสดงศักยภาพออกมาให้ได้มากที่สุด โดยโมดูล นี้ส่งเสริมอยู่ใน 5 สมรรถนะหลัก ผ่านการเรียนรู้ที่เปิดพื้นที่ให้สามเณรนักเรียนได้คิดอย่างอิสระ สร้างสรรค์ ซึ่งมี 5 สมรรถนะดังนี้ 

  1. สมรรถนะการสื่อสาร 
  • นักเรียนสามารถพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับผู้อื่นเพื่อให้งานสําเร็จ
  • นักเรียนสามารถพูดนําเสนอความคิดของตนเองต่อสาธารณชนได้
  • นักเรียนสามารถเขียนแสดงความคิดเห็น/สะท้อนความคิดของตนเองออกมาให้คนอื่นเข้าใจได้
  1. สมรรถนะการคิดขั้นสูง 
  • นักเรียนสามารถวิเคราะห์ปัญหา สาเหตุ และค้นหาวิธีการหรือแนวคิดใหม่ๆ ที่จะนํามาใช้ในการแก้ปัญหาได้อย่างสมเหตุและสมผล
  • นักเรียนสามารถสะท้อนผลการทํางานของตนเอง โดยนําเสนอแนวคิดออกมาในแบบต่างๆ เช่น เขียน พูดนําเสนอ ได้อย่างชัดเจน
  • นักเรียนมีความสามารถในการคิดสร้างสรรค์ โดยคิดค้นหาวิธีการใหม่ๆ วิธีการที่แตกต่างจากเดิมเพื่อให้ผลงานมีความน่าสนใจมากขึ้น
  1. สมรรถนะการแก้ปัญหา 
  • การคิดวิเคราะห์ สามารถระบุปัญหา แยกแยะสาเหตุ และประเมินข้อมูลได้อย่างมีเหตุผล
  • ความคิดสร้างสรรค์ คิดหาวิธีแก้ปัญหาใหม่ ๆ นอกกรอบ และปรับใช้ทรัพยากรที่มีให้เกิดประโยชน์สูงสุด
  • การตัดสินใจ เลือกแนวทางแก้ปัญหาที่ดีที่สุดโดยพิจารณาจากข้อมูล ผลกระทบ และความเป็นไปได้
  1. สมรรถนะการดำรงชีวิตในสมณสารูป
  • ศีลาจารวัตร (วินัยและความประพฤติ)  การรักษาศีล ปฏิบัติตามพระวินัย และดำรงชีวิตอย่างสำรวม
  • สมถะและสันโดษ – การพอใจในสิ่งที่มี ใช้ชีวิตเรียบง่าย ไม่ยึดติดวัตถุหรือความสะดวก
  • สบายปัญญาและการเผยแผ่ธรรม – การศึกษาธรรมะ ฝึกฝนปัญญา และนำความรู้ไปสั่งสอนหรือเป็นประโยชน์แก่ผู้อื่น
  1. สมรรถนะด้านเทคโนโลยี 
  • การใช้เทคโนโลยีอย่างมีประสิทธิภาพ  สามารถใช้อุปกรณ์ดิจิทัล ซอฟต์แวร์ และเครื่องมือออนไลน์ได้อย่างเหมาะสม
  • การคิดเชิงดิจิทัล  เข้าใจและประเมินข้อมูลออนไลน์ แยกแยะข่าวปลอม และรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์
  • การแก้ปัญหาและปรับตัวกับเทคโนโลยีใหม่  เรียนรู้เทคโนโลยีใหม่ ๆ และประยุกต์ใช้เพื่อพัฒนางานหรือชีวิตประจำวัน

ด้วยเป้าหมายที่กำหนดไว้ที่แน่นอนแล้ว เราจึงเฟ้นหาสามเณรนักเรียนที่มีความโดดเด่น มีทักษะความสามารถและสมรรถที่จะเป็นแกนนำในการพัฒนาตนเอง ส่งต่อทักษะ และสามารถต่อยอดให้เพื่อนร่วมชั้นได้เข้ามาอบรม การอบรมทางโครงการจะแบ่งคละ ๆ กลุ่มตามความสามารถและทักษะ โดยใช้กระบวนการกลุ่มเป็นแก่นในการทำกิจกรรมเพื่อให้เด็ก ๆ ได้สะท้อนทักษะและความสามารถตนเอง

จุดแข็ง – จุดอ่อน และข้อค้นพบของสามเณรนักเรียน

หลังจากที่เราเข้าไปทำกิจกรรมเราได้เห็นแนวทางการพัฒนาตั้งแต่แรกเริ่ม ตั้งแต่โมดูลของผู้บริหารที่โฟกัสมาที่การพัฒนาสมรรถนะการเรียนรู้ของสามเณรนักเรียนมากขึ้น ซึ่งสิ่งเหล่านี้สะท้อนจากโครงการที่เกิดขึ้นมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาผู้เรียนเป็นสำคัญเพิ่มมากขึ้น ตัวคุณครูเองที่นอกจากจะสอนตามหลักสูตรแกนกลางแล้ว ได้หันมาปรับวิธีคิดปรับกระบวนการว่าจะทำอย่างไรให้ส่งเสริมให้เด็ก ๆ ได้มีสมรรถนะตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ สามเณรนักเรียนได้รับการหนุนเสริมให้มีพื้นที่และมีเวทีได้แสดงศักยภาพที่ซ่อนอยู่ มีกิจกรรมให้เรียนรู้มากกว่าในตำราเรียน และมีกระบวนการในการวัดผลประเมินผลที่มีความชัดเจน สิ่งเหล่านี้ส่งผ่านมายังตัวผู้เรียน และสิ่งเหล่านี้ได้กลายเป็นจุดแข็งของโรงเรียนพระปริยัติธรรม

จุดที่ต้องพัฒนาต่อ ที่ผ่านมาได้สามเณรที่เข้าร่วมโครงการโรงเรียนละ 5 – 10 รูป อาจารย์มองว่า

สามเณรกลุ่มนี้ที่ได้รับการพัฒนาแล้วจะสามารถพัฒนาต่อได้อย่างไร จะหนุนเสริมอย่างไรให้เกิดการขยายผลเกิดการสร้างเครือข่ายความร่วมมือระหว่างโรงเรียน / วัดให้มากขึ้น 

คุณครูโรงเรียนพระปริยัติธรรม การหนุนเสริมอย่างไรให้เกิดการพัฒนาแลกเปลี่ยนความรู้และขยายผลผ่านการ PLC ได้อย่างสม่ำเสมอและมีประสิทธิภาพ 

พระปริยัตินิเทศก์/ศึกษานิเทศก์ เกิดการดำเนินงานอย่างต่อเนื่องมีการขยายผลเห็นร่องรอยของผลลัพธ์ที่ดำเนินการต่ออย่างมีเป้าหมาย

อาจารย์สังเกตเห็นอะไรจากกระบวนการเรียนรู้ที่เกิดขึ้น

ผลสะท้อนจากเราพบว่าสามเณรหลายรูปมีแบ่งได้ออกเป็น 3 กลุ่ม ภาวะความเป็นผู้นำสูง ปานกลาง และกำลังรอการส่งเสริม ซึ่งทุก ๆ กิจกรรมที่เราอบรมเป็นกลุ่มแบบ Active Learning ที่จะช่วยส่งเสริมให้สามเณรได้แสดงสมรรถนะทั้ง 5 ให้ได้มากที่สุดและอยู่บนสมณสารูปที่เหมาะสม  

สิ่งที่เห็นจากการเปลี่ยนแปลงในตัวของเด็กๆ ที่เกิดขึ้น ด้วยตัวกิจกรรมจัดให้เด็กจากหลายพื้นที่ หลายโรงเรียนเข้ามาเรียนรู้ร่วมกันแบบคละความสามารถ ใช้ฐานกิจกรรมกลุ่มทำให้สามารถปรับตัวให้เข้ากันได้ ได้ทำงานกันเป็นทีม แก้ปัญหาร่วมกัน ได้แสดงศักยภาพตามความสามารถ เกิดการสะท้อนคิด และโครงการนี้เปิดโอกาสให้สามเณรนักเรียนได้ใช้เทคโนโลยีแบบต่าง ๆ ในการเรียนรู้และการทำงานร่วมกับเพื่อนสามเณร การเปิดพื้นที่=การเปิดโอกาส ให้เกิดพื้นที่แสดงออกยิ่งทำให้เราค้นพบว่าเด็ก ๆ มีศักยภาพมากกว่าที่เราคาดการณ์ไว้แต่แรกด้วยซ้ำ และบางคนที่มีทักษะการเรียนรู้เทียบเท่ากับวิทยากรเลยด้วยซ้ำ ซึ่งเป็นเรื่องที่อาจารย์ประทับใจมาก และเรายังสามารถผลักดันให้สามเณรนักเรียนสามารถเป็นผู้ช่วยวิทยากรในหลาย ๆ กิจกรรม

และด้วยตัวกิจกรรมที่ให้สามเณรจากหลายพื้นที่มีโอกาสเข้ามาแลกเปลี่ยนร่วมกัน ทำให้ลูกๆ สามเณรมีเครือข่ายการเรียนรู้เพิ่มขึ้น ในอนาคตจะเกิดการแลกเปลี่ยนความรู้การทำงานที่จะสร้างคุณประโยชน์ให้กับแก่สามเณร โรงเรียนพระปริยัติ และทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาได้ 

ผลสะท้อนจากออกแบบวางแผนการทำงาน 

โมดูลที่อาจารย์ดูแลเป็นโมดูลของผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้นช่วงท้าย ๆ ซึ่งการวางแผนและออกแบบที่มีประสิทธิภาพการทำงานผ่านกลไกของผู้บริหาร ผ่านกลไกครู ผ่านกลไกของศึกษานิเทศก์ ที่สอดคล้องเกี่ยวเนื่องกันมีไทม์ไลน์ที่เหมาะสมทำให้กระบวนการทำงานได้ผลลัพธ์ที่เกิดประสิทธิภาพ ที่ผลการทำงานนั้นสะท้อนผ่านจากพฤติกรรมผู้เรียนที่มีการพัฒนาเป็นไปตามเป้าหมายมีสมรรถนะที่เราวางแผนไว้และมีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ 

สิ่งที่สะท้อนความสำเร็จจากโครงการ การทำงานของโครงการนี้มีเป้าหมายเชิงพื้นที่แค่ 2 ภูมิภาคคือภาคเหนือและภาคอีสาน ที่มีสามเณรเข้าร่วมโครงการเกือบร้อยรูปแต่หลังจากจบโครงการไปแล้วสามเณรสร้างเครือข่ายการเรียนรู้ที่มีความเหนียวแน่นในการทำงาน เกิดผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นลูก ๆ สามเณรนักเรียนได้มีโอกาสนำเสนอโครงการ/ออกแบบโครงการให้กับโรงเรียนสะท้อนขึ้นไปที่ผู้บริหารเพื่อแสดงความต้องการว่าสามเณรอยากพัฒนาหรือต้องการเรียนรู้อะไร เป็นการทำงานแบบล่างขึ้นบนและเป็นการออกแบบการเรียนรู้ที่เกิดขึ้นจากผู้เรียนที่แท้จริง

โครงการพัฒนาสมรรถนะสามเณรนักเรียนในโรงเรียนพระปริยัติธรรมนี้เป็นกระบวนการที่ช่วยให้ผู้เรียนสามารถแสดงศักยภาพและพัฒนาทักษะที่จำเป็นในศตวรรษที่ 21 ได้อย่างเหมาะสมกับบริบทของตนเอง ผ่านการออกแบบโมดูลการเรียนรู้ที่เน้นการสื่อสาร การคิดขั้นสูง การแก้ปัญหา การดำรงชีวิตในสมณสารูป และการใช้เทคโนโลยี โดยได้รับการสนับสนุนจากผู้บริหาร ครู และศึกษานิเทศก์ที่ช่วยกันผลักดันให้เกิดเครือข่ายความร่วมมือและการเรียนรู้ที่ต่อเนื่อง การเปิดพื้นที่ให้สามเณรนักเรียนได้แสดงออกและทำงานร่วมกันได้ช่วยให้เด็กๆ พัฒนาตนเองเป็นผู้นำทางความคิด และสร้างโอกาสให้กับเพื่อนร่วมรุ่น ทั้งนี้ โครงการไม่เพียงแต่ส่งเสริมการเรียนรู้ในปัจจุบัน แต่ยังวางรากฐานสำคัญสำหรับการพัฒนาการศึกษาพระปริยัติธรรมในระยะยาว เพื่อให้สามเณรสามารถนำองค์ความรู้ไปใช้ประโยชน์ต่อทั้งตนเอง สังคม และพระพุทธศาสนาได้อย่างยั่งยืน

Loading

Writer

0 0 votes
Article Rating
Subscribe
Notify of
guest
0 Comments
Oldest
Newest Most Voted
Inline Feedbacks
View all comments

Most Popular

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า